วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2552

กรณีปภัสชนัญญ์ ฉิ่งอินทร์ และพวก

กรณีปภัสชนัญญ์ ฉิ่งอินทร์ และพวก

ข้อมูลด้านคดีและการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้อง:
7 เมษายน 2552 ปภัสชนัญญ์ ฉิ่งอินทร์ แกนนำกลุ่มคนของแผ่นดินลูกหลานย่าโม และเครือข่ายแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จ.นครราชสีมา ซึ่งชุมนุมประท้วงพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พันธมิตรฯ) และรัฐบาล อยู่ที่ จ.นครราชสีมา ได้ทำการเผาโลงศพจำลองซึ่งมีข้อความและชื่อของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เขียนไว้ด้านข้างโลง ต่อมา กลุ่มพันธมิตรฯ จ.นครราชสีมา และทหารในจ.นครราชสีมา ซึ่งเห็นว่าข้างโลงศพที่ใช้เผาประท้วงดังกล่าว มีการเขียนข้อความเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ได้แจ้งความให้ดำเนินคดีต่อปภัสชนัญญ์และพวก ซึ่งศาลจังหวัดนครราชสีมาได้อนุมัติหมายจับ ลงวันที่ 23 เมษายน 2552

24 เมษายน 2552 ปภัสชนัญญ์ ฉิ่งอินทร์ ได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา โดยได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมขอต่อสู้คดีและให้การในชั้นศาล ก่อนถูกควบคุมตัวไปขออำนาจฝากขังต่อศาลจ.นครราชสีมา ซึ่งปภัสนัญญ์ได้ใช้ตำแหน่งข้าราชการครู ระดับ 9 ของญาติ เป็นหลักทรัพย์ในการร้องขอประกันตัว และศาลได้พิจารณาอนุญาตให้ประกันตัว โดยนัดให้มารายงานอีกครั้งในวันที่ 6 พฤษภาคม 2552

อนึ่ง ก่อนหน้าเหตุการณ์ดังกล่าว ในคืนวันที่ 3 เมษายน 2552 สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ได้พูดออกอากาศในสถานีโทรทัศน์ ASTV ว่า “...เสื้อเหลืองออกมาปกป้อง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในฐานะที่พระองค์ท่านเป็นประธานองคมนตรี...” ซึ่งคาดว่ากลุ่มคนของแผ่นดินลูกหลานย่าโมและนปช.จ.นครราชสีมา ได้นำคำพูดผิดดังกล่าวของสนธิไปล้อเลียนในเวลาต่อมา โดยได้เขียนคำเรียกขานพล.อ.เปรมตามคำพูดของสนธิ ไว้ที่ข้างโลงศพจำลองก่อนเผาประท้วง จนสร้างความไม่พอใจให้แก่พันธมิตรฯและทหารในจ.นครราชสีมา และเกิดการเข้าแจ้งความดำเนินคดี ดังกล่าว


รายละเอียด:

7 เมษายน 2552

ปภัสชนัญญ์ หรือ “เจ๊แดง” ฉิ่งอินทร์ แกนนำกลุ่มคนของแผ่นดินลูกหลานย่าโม และเครือข่ายแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จ.นครราชสีมา ซึ่งชุมนุมประท้วงพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พันธมิตรฯ) และรัฐบาล ได้ทำการเผาโลงศพจำลองซึ่งมีข้อความและชื่อของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เขียนไว้ด้านข้างโลง เหตุเกิด ณ บริเวณลานข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา

9 เมษายน 2552
พ.อ.วีระภัทรพล บุญย์เชี่ยว นายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ให้ดำเนินคดีต่อปภัสชนัญญ์และพวก ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์

10 เมษายน 2552
กลุ่มประชาชนชาวโคราช และพันธมิตรฯ จ.นครราชสีมา ในนามสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยจังหวัดนครราชสีมา และภาคีมวลชนคนโคราชรักประชาธิปไตยได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ให้ดำเนินกับ น.ส.ปภัสนันท์ ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เช่นกัน รวมถึงข้อหาความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113, 114 และ 115, ความผิดฐานหมิ่นประมาท ตามมาตรา 326

นอกจากนี้ยังได้มีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้ดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กับ พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา, พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ ผู้กำกับ (ผกก.) สภ.เมืองนครราชสีมา, พ.ต.ท.พิเชษฐ อรชุน รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครราชสีมา, พ.ต.ท.ชลาสินธุ์ ชลาลัย รอง ผกก. ป.สภ.เมืองนครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุดังกล่าวอีกจำนวน 10 นาย ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 2,000- 20,000 บาท

23 เมษายน 2552
ศาลจังหวัดนครราชสีมา ได้อนุมัติหมายจับเลขที่ 122/2552 ลงวันที่ 23 เมษายน 2552 ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ กรณีก่อเหตุเผาโลงศพ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่บริเวณลานข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา

24 เมษายน 2552
เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ปภัสชนัญญ์ ฉิ่งอินทร์ แกนนำกลุ่มคนของแผ่นดินลูกหลานย่าโม และนปช.จ.นครราชสีมา หรือกลุ่มคนเสื้อแดง จ.นครราชสีมา ได้เข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.ชัยวุฒิ เกียรติก้องกำจาย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา

จากนั้นพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ได้แจ้งข้อหาให้ทราบ ซึ่งปภัสนัญญ์ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมขอต่อสู้คดีและให้การในชั้นศาล ก่อนถูกควบคุมตัวไปขออำนาจฝากขังต่อศาลจ.นครราชสีมา ซึ่งปภัสนัญญ์ได้ใช้ตำแหน่งข้าราชการครู ระดับ 9 ของญาติ เป็นหลักทรัพย์ในการร้องขอประกันตัว และศาลได้พิจารณาอนุญาตให้ประกันตัว โดยนัดให้มารายงานอีกครั้งในวันที่ 6 พฤษภาคม 2552

ด้าน พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ ผู้กำกับการ(ผกก.) สภ.เมืองนครราชสีมา เปิดเผยว่า คดีที่ปภัสชนัญญ์ เข้ามอบตัวดังกล่าวเป็นคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งพ.อ.วีระภัทรพล บุญย์เชี่ยว ทหารฝ่ายเสนาธิการประจำกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีอาญากับปภัสชนัญญ์และพวก ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 “ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี” เนื่องจากผู้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเห็นว่า เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2552 ปภัสชนัญญ์และพวก ได้เผาโลงศพจำลองเพื่อประท้วง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ พันธมิตรฯ และรัฐบาล ที่บริเวณลานข้างอนุสาวรีย์ท้าวสรนารี (ย่าโม) ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยมีการเขียนข้อความเข้าข่ายความผิดมาตรา 112 ไว้ข้างโลงศพที่ใช้เผาประท้วง ซึ่งเมื่อเจ้าพนักงานเห็นว่าพยานหลักฐานเพียงพอ จึงได้ยื่นขอศาลจ.นครราชสีมาออกหมายจับแกนนำกลุ่มผู้ก่อเหตุที่สามารถระบุชื่อได้อย่างชัดเจน คือปภัสชนัญญ์ ฉิ่งอินทร์ ซึ่งศาลได้อนุมัติออกหมายจับเมื่อวานนี้ (23 เม.ย.) และผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนในวันต่อมา

ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุคนอื่นๆ ที่ยังไม่สามารถระบุชื่อได้นั้น ผกก. สภ.เมืองนครราชสีมา เปิดเผยว่า กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของเจ้าพนักงาน หากมีพยานหลักฐานเพียงพอก็จะดำเนินการขอศาลออกหมายจับมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป


อนึ่ง ในคืนวันที่ 3 เมษายน 2552 สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ได้พูดออกอากาศในสถานีโทรทัศน์ ASTV ว่า “...เสื้อเหลืองออกมาปกป้อง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในฐานะที่พระองค์ท่านเป็นประธานองคมนตรี...” ซึ่งคาดว่ากลุ่มคนของแผ่นดินลูกหลานย่าโมและนปช.จ.นครราชสีมา ได้นำคำพูดผิดดังกล่าวของสนธิไปล้อเลียนในเวลาต่อมา โดยได้เขียนคำเรียกขานพล.อ.เปรมตามคำพูดของสนธิ ไว้ที่ข้างโลงศพจำลองก่อนเผาประท้วง จนสร้างความไม่พอใจให้แก่พันธมิตรฯและทหารในจ.นครราชสีมา และเกิดการเข้าแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น