วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2552

กรณีชูชีพ ชีวสุทธิ์

กรณีชูชีพ ชีวสุทธิ์

ข้อมูลด้านคดีและความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้อง:

ชูชีพ ชีวสุทธิ์ ประธานชมรมพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ถูกคณะทำงานด้านการสืบสวน สังกัดกองบัญชาการตำรวจสันติบาล เข้าแจ้งความดำเนินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เหตุจากถ้อยคำในการปราศรัยบนเวทีสนามหลวง และรายการวิทยุ "วิทยุชุมชนเวทีทวงคืนประชาธิปไตย"

ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้อนุมัติหมายจับชูชีพ ชีวสุทธิ์ ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เมื่อค่ำวันที่ 20 สิงหาคม 2551 - เขาหายตัวไปนับแต่นั้น


รายละเอียด:

22 กรกฎาคม 2551
เวบไซต์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พันธมิตรฯ) ได้ขึ้นปราศรัยที่เวทีบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยในตอนหนึ่ง สนธิได้กล่าวถึง ชูชีพ ชีวสุทธิ์ หรือสหายสมชาย ประธานชมรมพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ซึ่งสนธิระบุว่า เป็น "ที่ปรึกษาของที่ปรึกษาฝ่ายซ้ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี

โดยสนธิระบุว่า ชูชีพ ชีวสุทธิ์ ได้ "พูดจาจาบจ้วงพระเจ้าอยู่หัว" ในระหว่างที่จัดรายการวิทยุชุมชน คลื่น FM 102.75MHz ออกอากาศจากนนทบุรีและถ่ายทอดสัญญาณไปที่ราชบุรี โดยได้ออกอากาศต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.-17 ก.ค. 2551 พร้อมทั้งเปิดเผยว่า นอกจากนี้ตนยังมีบันทึกเกี่ยวกับการปราศรัยของบุคคลเดียวกันนี้ที่ท้องสนามหลวง ซึ่ง "จาบจ้วงให้ร้ายพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 19 หัวข้อ ซึ่งแต่ละหัวข้อไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ แต่มีเจตนาทำลายล้างทุกข้อ" และเรียกร้องให้อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์จัดการต่อกรณีดังกล่าว
“ผมอยากถามว่า อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ส้นเท้าคนนี้ทำอะไรอยู่ มีอย่างที่ไหนปล่อยให้สถุนบ้านสถุนเมืองออกอากาศทางวิทยุทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ได้อย่างต่อเนื่อง”


แกนนำพันธมิตรฯ ผู้นี้กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ต้องออกมาต่อสู้เพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์เพราะพระเจ้าอยู่หัวเป็นศูนย์รวมทรงทศพิธราชธรรม เหนือกว่าระมหากษัตริย์ที่ไหนในโลก ทั้งนี้ ในตอนท้ายสนธิได้ย้ำว่า จะต้องร่วมมือกันไล่กุ๊ยการเมืองทั้งที่ไม่เป็นทางการคือนปก. และที่เป็นทางการคือรัฐบาล (รัฐบาลในขณะนั้นนำโดยพรรคพลังประชาชน ซึ่งมีสมัคร สุนทรเวช ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคและนายกรัฐมนตรี - LM watch)และข้าราชการออกไปให้พ้นไปให้ได้

30 กรกฎาคม 2551
พล.ต.ท. อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. ได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้คณะทำงานสืบสวนสอบสวนคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กำลังรวบรวมพยานหลักฐานรายละเอียดพฤติการณ์ กรณีที่มีการกล่าวพาดพิงก้าวล้วงสถาบันเบื้องสูง ในรายการวิทยุ "วิทยุชุมชนเวทีทวงคืนประชาธิปไตย" เพื่อเตรียมขออนุมัติหมายจับบุคคลที่พูด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างส่งเทปคำพูดให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบคลื่นเสียงว่า เป็นเสียงของชูชีพ ชูชีพ ชีวสุทธิ์ ประธานชมรมพิทักษ์รัฐธรรมนูญ จริงหรือไม่ คาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 3-4 วันก็จะรู้ผลยืนยันชัดเจน เมื่อได้หลักฐานในส่วนนี้ก็จะดำเนินการขออนุมัติหมายจับในทันที

“...ตำรวจจะดำเนินกับผู้กระทำความผิดข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพทุกคน ทุกรายไป ไม่มีละเว้น ... เนื่องจากคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้นเป็นคดีที่มีโทษเกิน 3 ปีขึ้นไป ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องมีการออกหมายเรียกสามารถออกหมายจับได้ทันที เพราะเป็นคดีที่สามารถดำเนินการได้ทันทีโดยไม่ต้องรอให้มีใครมาแจ้งความ เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่คนไทยทุกคนเคารพบูชา" ผบช.น.กล่าว

ด้านแหล่งข่าวจากคณะทำงานชุดสืบสวนสอบสวนคดีหมิ่นฯ (กรรมการบอร์ด บช.น.) ซึ่งมีพล.ต.ท.อัศวินเป็นประธาน รเปิดเผยว่า คณะทำงานกำลังรวบรวมพยานหลักฐานรายละเอียดพฤติการณ์แห่งคดี พร้อมสืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐานทั้งภาพและเสียง ประกอบสำนวนคดีเพื่อเตรียมออกหมายจับผู้ต้อหาที่กระทำความผิดข้อหา หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพิ่มเติมอีก 1- 2 รายในเร็วๆ นี้

รายงานข่าวในหลายเวบไซต์ระบุว่า คณะทำงานสืบสวนได้สืบสวนรวบรวมเบาะแสข้อมูลหลักฐานการกระทำความผิดของชูชีพมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลักฐานภาพและเทปบันทึกเสียงคำพูดขณะที่ขึ้นปราศรัยบนเวทีแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) บริเวณท้องสนามหลวงหลายครั้ง และการพูดออกอากาศผ่านทางรายการวิทยุชุมชน ซึ่งตอนหนึ่ง ระบุถึง "เบื้องหลังผู้สนับสนุนการก่อกบฏก่อการปฏิวัติปี 2549", "ผ้าพันคอสีฟ้ากับระบอบประชาธิปไตย", "จดหมายจากแม่", "สนธิ ลิ้มทองกุลกับน้ำขวดพระราชทาน" เป็นต้น

ด้าน พล.ต.ต. อำนวย นิ่มมะโน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ( ผบก.น.1 ) กล่าวว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่ปราศรัยหมิ่นเบื้องสูงบนเวทีใดในพื้นที่นครบาล ตำรวจยืนยันออกหมายจับกุมดำเนินคดีเฉียบขาดทั้งหมดไม่มีละเว้น เพราะเรายอมไม่ได้ที่จะปล่อยให้ใครมาก้าวล่วงสถาบันพระมหาษัติรย์ซึ่งเป็นสถาบันสูงสุด ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานยืนยันการกระทำความผิดทั้งหมด โดยมีการบันทึกเทปการปราศรัยบนเวทีการชุมนุมทุกวันทั้งสองเวทีทั้งเวที พันธมิตรฯและเวทีกลุ่มต่อต้านที่ท้องสนามหลวง และมีการถอดเทปทุกวัน
“…ต้องยอมรับว่าขั้นตอนการตรวจสอบของตำรวจล่าช้าอยู่บ้าง เพราะเราทำในรูปแบบคณะกรรมการต้องมีการประชุมพิจารณากลั่นกรองคำพูดของแต่ละคนอย่างละเอียด...หากประชาชนท่านใดหรือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเห็นว่าตำรวจทำงานล่าช้าไม่ทันใจ ก็สามารถหาหลักฐานการกระทำความผิดข้อหาดังกล่าวมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีได้ในทันที จะพิจารณาตรวจสอบเป็นกรณีเร่งด่วนไป" ผบก.น.1 กล่าว

20 สิงหาคม 2551
ศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุมัติหมายจับชูชีพ ชีวสุทธิ์ ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

21 สิงหาคม 2551
พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. ได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับการดำเนินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกับชูชีพ ชีวสุทธิ์ ว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่คณะทำงานด้านการสืบสวน สังกัดกองบัญชาการตำรวจสันติบาล เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สน.บางรัก จากนั้นได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออนุมัติหมายจับ เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยนำพยานหลักฐานการกระทำความผิด โดยเฉพาะภาพและเทปบันทึกเสียงที่พูดออกอากาศทางวิทยุชุมชนและผ่านทางเว็ปไซด์ ซึ่งมีถ้อยคำหมิ่นพระบรมเดาชานุภาพอย่างต่อเนื่อง


ชูชีพ ชีวสุทธิ์, สหายสมชาย หรืออีกนามแฝงหนึ่งว่า "ชีพ ชูชัย" หายตัวไปตั้งแต่นั้น ความเห็นของคอการเมืองไทยที่ปรากฏในหน้าอินเตอร์เนตส่วนใหญ่ แสดงความเชื่อว่าชูชีพหายไปเพราะหลบหนีการจับกุม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น