วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2552

กรณีเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล



เพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล

ข้อมูลด้านคดีและความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้อง:

กลุ่ม "ทหารเสือพระราชา" ได้เข้าพบตำรวจ ณ กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมกับมอบสิ่งที่ระบุว่า คือหลักฐานและข้อมูลของผู้ที่แสดงพฤติกรรมไม่บังควรและหมิ่นพระบรมเดชานุภาพผ่านทางเว็บไซต์และการปราศรัยจำนวน 2 ราย โดยรายหนึ่งเป็นผู้ที่ใช้นามแฝงว่า "ฟิน" ในเวบไซต์ฟ้าเดียวกัน ส่วนอีกรายคือเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ซึ่งรองผู้บังคับการหัวหน้าศูนย์ความมั่นคงตำรวจภูธรภาค 5 ได้เป็นผู้รับหลักฐานทั้งหมดไว้ และกล่าวว่าจะตั้งคณะทำงานตรวจสอบ ซึ่งหากมีพบว่าความผิดจริงก็จะรายงานผู้บัญชาการเพื่อติดตามจับกุมต่อไป

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นได้ปรากฏเป็นข่าวในเวบไซต์ "กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์" ว่า กลุ่มพันธมิตรฯเชียงใหม่ และกลุ่ม "ทหารเสือพระราชา" เอง ได้เป็นผู้นำแผ่นซีดีที่อ้างว่ามีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ออกแจกจ่ายเผยแพร่

ต่อมา ในช่วงที่กลุ่ม "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" ก่อการยึดสนามบินสุวรรณภูมิ แกนนำคนสำคัญของกลุ่ม "ทหารเสือพระราชา" ได้เดินทางไปเข้าร่วมและกล่าวปราศรัย ซึ่งปรากฏถ้อยคำที่ระบุว่า เพชรวรรตเป็นเจ้าของสถานที่ผลิตซีดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

จากข้อมูลล่าสุด คดีดังกล่าวยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ


รายละเอียด:

19 ตุลาคม 2551
เวบไซต์ "กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์" รายงานว่า ขณะนี้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเชียงใหม่ และกลุ่มทหารเสือพระราชาเชียงใหม่ ได้นำแผ่นซีดีบันทึกการปราศรัยของเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มคนรักเชียงใหม่51 ซึ่งอ้างว่ามีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ออกแจกจ่ายเผยแพร่ อีกทั้งเว็บไซต์ของผู้จัดการออนไลน์ ยังได้ถอดเสียงบางส่วนออกเผยแพร่ มีประชาชนชาวเชียงใหม่สนใจติดตามเรื่องดังกล่าว และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง

20 ตุลาคม 2551
เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. เทิดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา แกนนำกลุ่ม "ทหารเสือพระราชา" และคณะ ได้นำเอกสาร ภาพถ่าย และแผ่นวีซีดี ที่ระบุว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับพฤติกรรมหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของคนบางกลุ่ม ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ณ กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 5 โดยพ.ต.อ.พงษ์สักก์ เชื้อสมบูรณ์ รองผู้บังคับการหัวหน้าศูนย์ความมั่นคงตำรวจภูธรภาค 5 ได้รับหลักฐานทั้งหมดไว้ และกล่าวว่าจะตั้งคณะทำงานตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องในเอกสารทั้งหมดว่ามีการกระทำผิดดังข้อแจ้งความหรือไม่ หากตรวจสอบว่ามีความผิดก็จะรายงานผู้บัญชาการเพื่อติดตามจับกุมต่อไป

ทั้งนี้ กลุ่ม "ทหารเสือพระราชา" ได้เปิดเผยว่า หลักฐานที่ตนนำมามอบคือ หลักฐานและข้อมูลของผู้ที่แสดงพฤติกรรมไม่บังควรและหมิ่นพระบรมเดชานุภาพผ่านทางเว็บไซต์และการปราศรัยจำนวน 2 ราย โดยรายหนึ่งเป็นผู้ที่ใช้นามแฝงว่า "ฟิน" ในเวบไซต์ "ฟ้าเดียวกัน" ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดลำปาง แต่ขณะนี้ทำงานในกรุงเทพฯ ส่วนอีกรายคือเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่ปราศรัยบนเวทีในจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกระจายเสียงผ่านวิทยุชุมชนของกลุ่ม เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2551 ตนจึงนำแผ่นวีซีดีบันทึกการปราศรัยมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน โดยก่อนหน้านี้ ได้นำไปมอบให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ไว้แล้วเช่นกัน

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. เพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล แกนนำกลุ่ม "รักเชียงใหม่ 51" ได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ เพื่อแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน โดยอ้างว่าถูกข่มขู่ไม่ให้จัดเวทีของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่บริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ซึ่งตนเองเป็นเจ้าของ และกรณีที่มีการกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน ดูหมิ่นเบื้องสูง โดยกล่าวปราศรัยชักชวนให้คนเชียงใหม่นับถือเพียงกษัตริย์ 3 พระองค์ บนอนุสาวรีย์สามกษัตริย์เท่านั้น เมื่อวันที่ 14 ต.ค.2551นั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ เชื่อว่า เป็นความพยายามของคนหลายกลุ่มที่ต้องการบิดเบือนข้อความ ซึ่งจะมีการฟ้องร้องหมิ่นประมาทและเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ที่กล่าวหาต่อไป รวมทั้ง ASTV หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และกลุ่มพันธมิตรฯที่เอาความดังกล่าวไปขยายต่อ ทั้งนี้ ยืนยันว่า คนเชียงใหม่รักในหลวงที่สุด ส่วนกรณีถูกข่มขู่เรื่องการจัดเวทีของกลุ่ม นั้น ก็จะยังคงเดินหน้าจัดเวทีต่อไป แต่เข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น และขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปช่วยคุ้มครองความปลอดภัย

21 ตุลาคม 2551
เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ผบ.มทบ.33 ได้มอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ทหารศูนย์ฝึก รด. นำหลักฐานวีซีดีคำปราศรัยดังกล่าว เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ สารวัตรเวร สภ.เมืองเชียงใหม่ ให้ดำเนินคดีกับเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่ม "รักเชียงใหม่ 51" ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

ต่อมา พ.ต.ท.ชาญวิทย์ แต้ประดิษฐ์ สารวัตรเวร สภ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งได้มีการสอบปากคำพร้อมรวบรวมข้อเท็จจริงพร้อมหลักฐานวีซีดี ยื่นรายงานส่งมอบไปยังกองบังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ แล้ว เนื่องจากมองว่าเป็นคดีความที่เกี่ยวเนื่องกับความมั่นคง เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงพิจารณาดำเนินการต่อไป

28, 29 พฤศจิกายน 2551
เทิดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา แกนนำกลุ่ม "ทหารเสือพระราชา" ได้กล่าวปราศรัยที่เวทีพันธมิตรฯ ทำเนียบรัฐบาล และสนามบินสุวรรณภูมิ (ตามลำดับ) ระบุว่าขบวนการล้มล้างสถาบันฯโดยระบอบทักษิณมีฐานปฏิบัติการใหญ่อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้โรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งมีเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุลเป็นเจ้าของ เป็นแหล่งผลิตสื่อซีดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
หมายเหตุ: บันทึกเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2552

..................................................

เพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล

ข้อมูลด้านคดีและความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้อง:

กลุ่ม "ทหารเสือพระราชา" ได้เข้าพบตำรวจ ณ กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมกับมอบสิ่งที่ระบุว่า คือหลักฐานและข้อมูลของผู้ที่แสดงพฤติกรรมไม่บังควรและหมิ่นพระบรมเดชานุภาพผ่านทางเว็บไซต์และการปราศรัยจำนวน 2 ราย โดยรายหนึ่งเป็นผู้ที่ใช้นามแฝงว่า "ฟิน" ในเวบไซต์ฟ้าเดียวกัน ส่วนอีกรายคือเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ซึ่งรองผู้บังคับการหัวหน้าศูนย์ความมั่นคงตำรวจภูธรภาค 5 ได้เป็นผู้รับหลักฐานทั้งหมดไว้ และกล่าวว่าจะตั้งคณะทำงานตรวจสอบ ซึ่งหากมีพบว่าความผิดจริงก็จะรายงานผู้บัญชาการเพื่อติดตามจับกุมต่อไป

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นได้ปรากฏเป็นข่าวในเวบไซต์ "กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์" ว่า กลุ่มพันธมิตรฯเชียงใหม่ และกลุ่ม "ทหารเสือพระราชา" เอง ได้เป็นผู้นำแผ่นซีดีที่อ้างว่ามีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ออกแจกจ่ายเผยแพร่

ต่อมา ในช่วงที่กลุ่ม "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" ก่อการยึดสนามบินสุวรรณภูมิ แกนนำคนสำคัญของกลุ่ม "ทหารเสือพระราชา" ได้เดินทางไปเข้าร่วมและกล่าวปราศรัย ซึ่งปรากฏถ้อยคำที่ระบุว่า เพชรวรรตเป็นเจ้าของสถานที่ผลิตซีดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

จากข้อมูลล่าสุด คดีดังกล่าวยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ


รายละเอียด:

19 ตุลาคม 2551
เวบไซต์ "กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์" รายงานว่า ขณะนี้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเชียงใหม่ และกลุ่มทหารเสือพระราชาเชียงใหม่ ได้นำแผ่นซีดีบันทึกการปราศรัยของเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มคนรักเชียงใหม่51 ซึ่งอ้างว่ามีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ออกแจกจ่ายเผยแพร่ อีกทั้งเว็บไซต์ของผู้จัดการออนไลน์ ยังได้ถอดเสียงบางส่วนออกเผยแพร่ มีประชาชนชาวเชียงใหม่สนใจติดตามเรื่องดังกล่าว และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง

20 ตุลาคม 2551
เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. เทิดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา แกนนำกลุ่ม "ทหารเสือพระราชา" และคณะ ได้นำเอกสาร ภาพถ่าย และแผ่นวีซีดี ที่ระบุว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับพฤติกรรมหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของคนบางกลุ่ม ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ณ กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 5 โดยพ.ต.อ.พงษ์สักก์ เชื้อสมบูรณ์ รองผู้บังคับการหัวหน้าศูนย์ความมั่นคงตำรวจภูธรภาค 5 ได้รับหลักฐานทั้งหมดไว้ และกล่าวว่าจะตั้งคณะทำงานตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องในเอกสารทั้งหมดว่ามีการกระทำผิดดังข้อแจ้งความหรือไม่ หากตรวจสอบว่ามีความผิดก็จะรายงานผู้บัญชาการเพื่อติดตามจับกุมต่อไป

ทั้งนี้ กลุ่ม "ทหารเสือพระราชา" ได้เปิดเผยว่า หลักฐานที่ตนนำมามอบคือ หลักฐานและข้อมูลของผู้ที่แสดงพฤติกรรมไม่บังควรและหมิ่นพระบรมเดชานุภาพผ่านทางเว็บไซต์และการปราศรัยจำนวน 2 ราย โดยรายหนึ่งเป็นผู้ที่ใช้นามแฝงว่า "ฟิน" ในเวบไซต์ "ฟ้าเดียวกัน" ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดลำปาง แต่ขณะนี้ทำงานในกรุงเทพฯ ส่วนอีกรายคือเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่ปราศรัยบนเวทีในจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกระจายเสียงผ่านวิทยุชุมชนของกลุ่ม เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2551 ตนจึงนำแผ่นวีซีดีบันทึกการปราศรัยมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน โดยก่อนหน้านี้ ได้นำไปมอบให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ไว้แล้วเช่นกัน

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. เพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล แกนนำกลุ่ม "รักเชียงใหม่ 51" ได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ เพื่อแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน โดยอ้างว่าถูกข่มขู่ไม่ให้จัดเวทีของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่บริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ซึ่งตนเองเป็นเจ้าของ และกรณีที่มีการกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน ดูหมิ่นเบื้องสูง โดยกล่าวปราศรัยชักชวนให้คนเชียงใหม่นับถือเพียงกษัตริย์ 3 พระองค์ บนอนุสาวรีย์สามกษัตริย์เท่านั้น เมื่อวันที่ 14 ต.ค.2551นั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ เชื่อว่า เป็นความพยายามของคนหลายกลุ่มที่ต้องการบิดเบือนข้อความ ซึ่งจะมีการฟ้องร้องหมิ่นประมาทและเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ที่กล่าวหาต่อไป รวมทั้ง ASTV หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และกลุ่มพันธมิตรฯที่เอาความดังกล่าวไปขยายต่อ ทั้งนี้ ยืนยันว่า คนเชียงใหม่รักในหลวงที่สุด ส่วนกรณีถูกข่มขู่เรื่องการจัดเวทีของกลุ่ม นั้น ก็จะยังคงเดินหน้าจัดเวทีต่อไป แต่เข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น และขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปช่วยคุ้มครองความปลอดภัย

21 ตุลาคม 2551
เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ผบ.มทบ.33 ได้มอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ทหารศูนย์ฝึก รด. นำหลักฐานวีซีดีคำปราศรัยดังกล่าว เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ สารวัตรเวร สภ.เมืองเชียงใหม่ ให้ดำเนินคดีกับเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่ม "รักเชียงใหม่ 51" ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

ต่อมา พ.ต.ท.ชาญวิทย์ แต้ประดิษฐ์ สารวัตรเวร สภ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งได้มีการสอบปากคำพร้อมรวบรวมข้อเท็จจริงพร้อมหลักฐานวีซีดี ยื่นรายงานส่งมอบไปยังกองบังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ แล้ว เนื่องจากมองว่าเป็นคดีความที่เกี่ยวเนื่องกับความมั่นคง เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงพิจารณาดำเนินการต่อไป

28, 29 พฤศจิกายน 2551
เทิดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา แกนนำกลุ่ม "ทหารเสือพระราชา" ได้กล่าวปราศรัยที่เวทีพันธมิตรฯ ทำเนียบรัฐบาล และสนามบินสุวรรณภูมิ (ตามลำดับ) ระบุว่าขบวนการล้มล้างสถาบันฯโดยระบอบทักษิณมีฐานปฏิบัติการใหญ่อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้โรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งมีเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุลเป็นเจ้าของ เป็นแหล่งผลิตสื่อซีดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

จากข้อมูลล่าสุด คดีดังกล่าวยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ


..................................................


ข้อมูลส่วนตัว:

เพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล อดีตผู้พิพากษาสมทบศาลแรงงาน ภาค 5 เขาเป็นนักธุรกิจและเจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ในด้านการเคลื่อนไหวทางการเมือง เพชรวรรตคือ แกนนำกลุ่ม "คนรักเชียงใหม่ 51"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น